โรงเรียนวัดช่องลาภ(โชคลาภประชาพัฒนา)
โรงเรียนวัดช่องลาภ(โชคลาภประชาพัฒนา) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลหนองพันจันทร์ อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี
เริ่มก่อตั้ง โรงเรียน เมื่อปี พ.ศ. 2517 โดยได้รับการบริจาคที่ดินจาก นายสนั่น สีบุปผา, นายบุญมี เมฆปั้น , นายแดง โสดา ,นายบุญ ศิริพิศ , และนายหล่ำ โพพูน ซึ่งมีเนื้อที่รวมกันทั้งหมด 12 ไร่ 1 งาน 37 ตารางวา โดยมีการเปิดทำการเรียนการสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2517 ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยมีนายทวี สุดพวง เป็นครูใหญ่ในขณะนั้น มีนักเรียนทั้งสิ้นจำนวน 86 คน
ปัจจุบันโรงเรียนวัดช่องลาภ (โชคลาภประชาพัฒนา) ได้มีการจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 จนถึง
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน ชาย-หญิง จำนวนรวมทั้งสิ้น 133 คน
ในวันที่ 2 ธันวาคม 2545 นางบุษบา ฤทธิสาร ได้ดำรงตำแหน่ง ครูใหญ่โรงเรียนวัดช่องลาภ อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี และได้เปลี่ยนมาเป็น ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดช่องลาภ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2547
วิสัยทัศน์ : สถานศึกษาดีเด่น มุ่งเน้นคุณธรรม ก้าวนำวิชาการ ผสานเทคโนโลยี สุขภาพดีทุกคน ชุมชนใกล้ชิด เศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญา : ใช้คุณธรรม นำความรู้ สู่สุขภาพดี
พันธกิจ ( Mission )
1. พัฒนาสถานศึกษาในทุก ๆ ด้าน จนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีได้
2. จัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงาม และดำเนินชีวิตตามแนวทางวิถีพุทธ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
3. จัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.การศึกษา 2542 และหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 อย่างหลากหลายและมีคุณภาพ ให้ผู้เรียนได้พัฒนาตามศักยภาพ ตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4. ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการจัดการศึกษา
5. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ เป็นผู้มี สุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุนทรียภาพ
6. ส่งเสริมให้ชุมชนเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในการบริหารจัดการ
7. น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้
โรงเรียนวัดช่องลาภ เป้าประสงค์ (School Goals)
1. สถานศึกษามีชื่อเสียง เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป
2. นักเรียนเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่านิยมที่ดีงาม ดำเนินชีวิตตามแนวทางวิถีพุทธ และมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
3. นักเรียนมีความรู้ความสามารถอย่างหลากหลายในทางวิชาการ สามารถพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพ ตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความรู้และทักษะพื้นฐานทางเทคโนโลยี
4. นักเรียนทุกคนเป็นผู้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุนทรียภาพ
5. ชุมชนมีส่วนร่วมและมีบทบาทในการดำเนินงานของสถานศึกษา
6. บุคลากรในสถานศึกษาน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต
อัตลักษณ์โรงเรียน โรงเรียนดี วิถีพุทธ
กิจกรรมเด่น
1. กิจกรรมวันธรรมสวนะ ช าระกายใจ
2. กิจกรรมน้องไหว้พี่
3. กิจกรรมชมรมพระพุทธศาสนา
4. กิจกรรมส่งเสริมความสามารถนักเรียนทางพระพุทธศาสนา
5. กิจกรรมสร้างสร้างสมาธิ เสริมปัญญา พัฒนาตน
นานาสาระ
เรื่อง ความคาดหวัง
ความคาดหวังก็เป็นความทุกข์อีกรูปแบบหนึ่งที่คุณเสาะแสวงหามันมาเอง เพื่อที่หวังจะมี “ความสุข” แต่ส่วนใหญ่ก็จะได้ผลลัพธ์มาเป็น “ความทุกข์” ที่แม้กระทั่งตัวคุณเองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า คุณเชื้อเชิญมันมาเอง ผมก็เป็นครับ
แต่ก็ต้องมายอมรับความจริงกันที่ว่า ทุกเรื่องเมื่อมีผลลัพธ์เป็นความผิดหวัง ไม่ว่าจะผิดหวังมากหรือผิดหวังน้อย ถ้าเราไม่รู้เท่าทันมัน ไม่ได้ได้ตั้งตัวที่จะรับมัน มันจะเป็นเครื่องมือที่ร้ายกาจในการบั่นทอนจนคนบางคนไม่สามารถจะทำอะไรอย่างอื่นได้ สำหรับผมทุกครั้งที่ผิดหวัง หัวใจของผมก้มลงกราบความผิดหวังเป็นครูบาอาจารย์ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมพบความผิดหวัง เพราะความผิดหวังในแต่ละครั้งทำผมแกร่งขึ้นในทุกๆครั้งที่ผมผิดหวัง จนกระทั่งถึงจุดๆหนึ่ง บางครั้งผมแทบไม่รู้สึกผิดหวังกับเหตุการณ์บางเหตุการณ์ เพียงแต่มองดูมันเฉยๆ แล้วตั้งสติ หาเหตุและผลจากความผิดหวังนั้น เก็บเกี่ยวแล้วก็เดินไปข้างหน้าต่อไป เพราะเพียงผมได้อ่านคำวาทะคำคมของพระสงฆ์ที่ผลศรัทธาในแนวคิดคำสอนของท่านที่ว่า
“ …จงเติบโตจากความผิดพลาด จงเฉลียวฉลาดจากความผิดหวัง…”
ว. วชิรเมธี
คำกล่าวของ ท่าน ว. วชิรเมธี เป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้ผมเข้าใจสัจธรรมที่ว่า ไม่มีใครทเกิดมาแล้วไม่เคยทำผิดพลาด และไม่มีใครไม่เคยผิดหวัง ดังนั้นเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ จงสร้างให้ตัวเราเติบโตจากความผิดพลาด และสร้างความเฉลียวฉลาดจากความผิดหวังที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา เพราะหากยอมรับความเป็นจริงดังนี้ได้ เราก็จะกลายเป็นบุคคลที่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจ เมื่อจิตใจแข็งแกร่ง กายก็แข็งแกร่งตามไปด้วย เช่นคำสอนที่ว่า “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว”
ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาด หรือความผิดหวัง ทั้งสองอย่างคือผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คิดไว้ จึงทำให้เกิดความรู้สึกทางลบ บางคนถึงกับกลายเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเองไปเลย แค่เพียงเกิดความผิดพลาด หรือ ผิดหวังหวังในชีวิตเพียงครั้งเดียว เพราะคาดหวังไว้มากว่า จะต้องเป็นอย่างนี้ จะต้องเป็นอย่างนี้อย่างนั้น แล้วก็ไม่ได้ดั่งที่หวัง ซึ่งในความเป็นจริงในเรื่องราวตรงนี้ โรเบิร์ต ฟรานซิส เคนเนดี้ นักการเมืองคนสำคัญชาวอเมริกัน ผู้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดของสหรัฐได้ให้แรงบันดาลใจผ่านแนวคิดของเขาไว้ว่า
“คนที่ไม่หวั่นต่อความผิดหวัง คือคนที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่”
ซึ่งก็สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับเรื่องราของความสำเร็จที่ บิล เก็ตส์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาด้านคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ที่ได้กล่าวเตือนสติกลุ่มบุคคลที่เอาแต่ไขว่คว้า และคาดหวัง ต้องการเพียงแค่ความสำเร็จในชีวิต เอาไว้ว่า
“ ความสำเร็จคือครูที่แย่มาก มันล่อลวงคนฉลาดให้คิดว่า
พวกเขาไม่มีวันล้มเหลว (บิล เกตส์ )
นั่นเป็นเรื่องจริงอย่างที่สุด เพราะมนุษย์ทุกคนต้องการแค่ความสำเร็จ เพราะคนที่ได้รับความสำเร็จจะเป็นบุคคลที่มีอิสรภาพทางการเงิน เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่อง นับหน้าถือตาในสังคม แต่ทุกคนต่างลืมมองกลับไปว่า กว่าที่คนเหล่านั้น จะก้าวเข้ามายืนอยู่ในจุดสูงสุดที่ทุกคนยอมรับในปัจจุบันนี้ พวกเค้าต้องผ่านความผิดหวัง ความล้ม ความผิดพลาด ต้องหกล้ม แล้วลุกขึ้นยืนใหม่กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง พวกเขาต้องผ่านความท้อแท้ สิ้นหวังของตนเองด้วยการลุกขึ้นสู้อย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย และเก็บประสบการณ์ที่เลวร้ายของตนเองเพื่อมาสร้างเป็นพลังด้านบวก และเป็นกำลังใจให้ตนเองอย่างหนักหน่วงแค่ไหน นั่นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะมองเห็น แต่จะเลือกมองเห็นเฉพาะความสำเร็จที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
สรุปวิธีที่จะรับมือกับความผิดหวังที่สำคัญเป็นประการแรกก็คือ คุณต้องรู้จักคาดหวังแต่พอสมควร และรู้จักที่จะต้องเผื่อใจรับความผิดหวังไว้กับทุกๆเรื่องที่คุณคาดหวัง ประการที่สอง เมื่อเกิดความผิดหวัง ให้มองดูมันอย่างมีสติ และรู้เท่าทันถึงเหตุที่มา และเหตุที่ไปของมัน ประการที่สาม เปลี่ยนความรู้สึกพลังลบที่ได้รับจากความผิดหวังทีให้เป็นพลังบวก คือ เช่นเปลี่ยนความผิดพลาดที่ผ่านมา มาเป็นข้อควรระวังในครั้งต่อไป ประการที่สี่ เลิกตำหนิตัวเองและโทษตนเอง แต่จงรู้จักให้อภัยตัวเองแล้วหยิบเอาความรู้จากตำราจริงของชีวิตมาเป็นอาวุธในการสร้างศักยภาพของชีวิต ด้วยการนำมาสร้างกลยุทธ์สู่ความสำเร็จ และกลั่นมันออกมาเพื่อแบ่งปันเป็นวิทยาทานให้กับผู้อื่นด้วยความภาคภูมิใจ
สำหรับผม ผุ้ที่เห็น “ความผิดหวัง” เป็นของหวาน ในวันนี้ ผมยังไม่ได้ไปยืนอยู่ในจุดแห่งความสำเร็จของธุรกิจ ร่ำรวยเงินทองแต่อย่างไร แต่ผมยืนอยู่บนจุดสำเร็จของชีวิตที่เรียนรู้ความผิดหวังของชีวิตอย่างมีความสุข ทุกข์ครั้งที่เจอมัน และผมภูมิใจที่ได้แบ่งปันวิธีสร้างความสุขแบบของผม ไปสู่บุคคลต่างๆไม่รู้เบื่อ ก็ชีวิตของคนเรานั้นเลือกวิธีประสบความสำเร็จที่แตกต่างกันนี่ครับ